วิธีการสอนวิทยาศาสตร์ รูปแบบการเรียนเชิงรุก หรือ Active Learning In Science เปลี่ยนจากห้องเรียนที่มีครูผู้สอนพูดคนเดียวกลายเป็นทุกคนในห้องเรียนมีบทบาทกันทั้งหมด แต่ละคนฉายแววตัวตนของตัวเองออกมา เด็ก ๆ ยกมือตั้งคำถามและตอบคำถามตลอด ซึ่งต่างจากห้องเรียนทั่วไปที่เด็กเข้ามานั่งฟังรับความรู้ มีความตั้งใจฟัง จดลงในสมุด แล้วอ่านตอนสอบเท่านั้น
วิธีการสอน แบบ Project Approach เป็นการให้โอกาสเด็กเลือกเรียนรู้ตามความสนใจ โดยใช้ การสอนแบบโครงงาน เป็นฐาน กระบวนนี้เปิดโอกาสให้เด็กต่างภาษา โดยเฉพาะเด็กที่พ่อแม่เป็นชนกลุ่มน้อยซึ่งมีปัญหาด้านการสื่อสารทำให้เรียนรู้ได้ไม่เท่าเพื่อนร่วมห้องกลุ่มอื่น จะสามารถเรียนรู้ไปได้พร้อม ๆ กัน กระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง พร้อมกับการเรียนรู้ตามความสนใจ
การสอนแบบบูรณาการ อันดับแรกคือครูที่รับผิดชอบการเรียนการสอนจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่ออกแบบการสอน เช่น เมื่อตั้งหัวข้อมาหัวข้อหนึ่งก็จะใช้กระบวนการ Project based Learning โดยใช้บริบทโรงเรียนและบริบทชุมชนเป็นฐานในการเรียนรู้เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนผู้ผ่านหัวข้อนี้มาสร้างทักษะและสมรรถนะที่วางแผนไว้ตลอดการเรียนการสอน ผลสุดท้ายสิ่งที่เด็กจะได้คือผลงานที่ผลิตออกมาผ่านกระบวนคิดต่าง ๆ และนำความรู้และทักษะต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นระหว่างการเรียนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้จริง
ทุกวันนี้การจัดการเรียน การสอนสังคมศึกษา แบบ Active Learning เป็นการเตรียมพร้อมให้เด็กมีความรับผิดชอบต่อการเรียน สร้างโอกาสให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ เนื่องจากเด็กทุกคนคิดและวิเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังมีสื่อหลายรูปแบบอยู่ในมือที่ค้นหาข้อมูลได้ตลอดเวล
การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creative Base Learning : CBL)
“เทคนิคการจัดการเรียนรู้ สู่การเปลี่ยนแปลงสมรรถนะของผู้เรียน (Powerful Pedagogies to Student Outcomes)"
สมรรถนะคืออะไร การจัดการออกแบบการเรียนการที่เน้นสมรรถนะทำได้อย่างไร
การสอนคณิตศาสตร์เป็นทักษะพื้นฐานที่ควรพัฒนาให้เด็กเพื่อเสริมสร้างทักษะการช่างสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งวิธี การสอนแบบ Active learning เป็นพื้นฐานของการพัฒนาให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ เนื่องจากการเล่นเป็นหัวใจสำคัญในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก เพื่อให้ครูสอดแทรกเนื้อหาทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์กับการเล่นของเด็กได้ ช่วยให้เด็กมีความพร้อมในการคิดคำนวณในระดับชั้นสูงต่อไป
เทคนิคการสอน เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้คิดเป็น ทำเป็น และเห็นเป้าหมายของตนเอง นั่นคือ หลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนนำความรู้ที่เรียนมาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง วิธีการสอน แบบนี้ตอบโจทย์ความต้องการของโลกยุคใหม่ เพื่อให้เยาวชนสะสมความรู้จนเพิ่มพูนสามารถคิดอย่างยืดหยุ่นและนำไปพลิกแพลงแก้ปัญหาที่ซับซ้อนด้วยตนเองได้หลากหลายสถานการณ์ ส่งผลให้เด็กมีเหตุผลรอบด้าน และตัดสินใจอย่างมีวิจารณญาณและนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นในระยะยาวแ
หากครูสอนภาษาไทยสอนเด็กแบบท่องจำ เด็กจะรู้สึกเบื่อกับการอ่านท่องจำอย่างเดียว แต่ถ้า การสอนภาษาไทย ผ่านกิจกรรมแบบ Active Learning หรือการสอนเชิงรุกเข้าช่วย เด็ก ๆ จะเกิดการเรียนรู้ได้เร็ว ได้คิดและสำรวจได้มากขึ้น ซึ่ง วิธีการสอน แบบนี้ เป็นเรื่องท้าทายสำหรับครูส่วนใหญ่ที่ไม่เคยสอนแนวนี้มาก่อน จะเห็นว่าการเรียนรู้แบบดั้งเดิมจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการใช้หลักสูตรนวัตกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างราบรื่นและสนุกยิ่งขึ้น
เทคนิคและเครื่องมือการออกแบบการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ
ชุดโครงการวิจัยระบบสนับสนุนสังคมดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทักษะจำเป็นพื้นฐานสำหรับผู้เรียนนอกระบบในพื้นที่ชายขอบ จังหวัดเชียงใหม่
ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรมแห่งชาติ โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)
ภายใต้แผนงานริเริ่มสำคัญ "พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา" ประจำปีงบประมาณ 2564 ตามสัญญารับทุนเลขที่ A15F640045